Skip to content Skip to footer

ทุกสิ่งคือการสั่นสะเทือน (vibration) ตั้งแต่เก้าอี้ที่คุณนั่งไปจนถึงกระดาษหรือเมาส์ที่คุณจับอยู่ ทุกสิ่งล้วนอยู่ในสภาวะสั่นสะเทือนจากอิเล็กตรอนที่หมุนรอบนิวเคลียสของอะตอมไปจนถึงดาวเคราะห์ที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ในกาแล็กซี ทุกสิ่งเคลื่อนไหวและทุกอย่างสั่นสะเทือนเป็นความถี่

วัตถุทุกชิ้นมีอัตราการสั่นสะเทือนตามธรรมชาติ สิ่งนี้เรียกว่า resonance หนึ่งในหลักการพื้นฐานของการใช้ความถี่เป็นรูปแบบการเปลี่ยนแปลงและการรักษาคือการเข้าใจแนวคิดที่ว่า ส่วนต่างๆของร่างกายอยู่ในสถานะของการสั่นสะเทือน อวัยวะทุกส่วน, กระดูกทุกส่วน,ทุกเนื้อเยื่อ,ทุกระบบ ล้วนอยู่ในสภาวะสั่นสะเทือน เมื่อเราอยู่ในสภาวะสุขภาพที่ดีร่างกายก็จะสร้างสมดุลโดยรวมของสุขภาพ อย่างไรก็ตามเมื่อความถี่ที่สวนทางกับสุขภาพของเราก่อตัวขึ้นในบางส่วนของร่างกาย จะทำให้เกิดความไม่ลงรอยกันที่เราเรียกว่าโรคภัยไข้เจ็บ(dis-ease)

กฎแห่งการสั่นสะเทือน

เช่นเดียวกับที่ก้อนกรวดสร้างแรงสั่นสะเทือนที่ดูเหมือนเป็นระลอกคลื่นซึ่งเคลื่อนออกไปบนผิวน้ำ ความคิดของคุณก็สร้างแรงสั่นสะเทือนที่เคลื่อนออกไปด้านนอกสู่จักรวาล และดึงดูดแรงสั่นสะเทือนที่คล้ายกัน ซึ่งแสดงออกมาเป็นสถานการณ์ในชีวิตของคุณ

Solfeggio Harmonics – 528 HZ – ความถี่มหัศจรรย์

ความถี่ 528 เฮิร์ตซ์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “528 มิราเคิล” เนื่องจากมีความสามารถที่โดดเด่นในการรักษาและซ่อมแซม DNA ภายในร่างกาย และเป็นความถี่ที่นักชีวเคมีด้านพันธุกรรมใช้

“528 รอบต่อวินาที เป็นความถี่การสร้างสรรค์หลักของธรรมชาติอย่างแท้จริง มันคือความรัก” ดร. ลีโอนาร์ด จี. โฮโรวิทซ์ นักวิจัยทางการแพทย์ชื่อดังกล่าว

ความถี่ต่ำและความถี่ที่ไม่สมดุลทำให้เกิดความเจ็บป่วยด้วยการใช้ frequency healing tools, คุณสามารถช่วยแก้ไขความไม่สมดุลเหล่านั้นได้แม้กระทั่งก่อนที่มันจะก่อโรค Frequency healing tool เสริมซึ่งกันและกันและเสริมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน และไม่มีผลข้างเคียง

อารมณ์เชิงบวกใดๆก็ตามจะทำให้เซลล์สั่นด้วยความถี่ที่สูงขึ้นและอารมณ์เชิงลบจะทำให้เซลล์สั่นด้วยความถี่ต่ำลง อารมณ์เชิงลบเหล่านี้เมื่อเก็บไว้ในเซลล์ของร่างกาย นั่นก็คือโรค

ฟิสิกส์ควอนตัมพิสูจน์ว่า สสารทั้งทางกายภาพและเคมีประกอบด้วยอนุภาคย่อยของอะตอมที่มีประจุไฟฟ้าบวกและลบ ดังนั้น เราจึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีไฟฟ้า จักรวาลของเราและทุกๆสิ่งในจักรวาลของเราก็เช่นกัน

จากการค้นพบนี้ทำให้ทราบได้ว่าสารเคมีหรือสสารทางกายภาพทุกรูปแบบมีความถี่เฉพาะที่สามารถวัดได้ซึ่งรวมถึงทุกสิ่งที่ประกอบกันเป็นตัวเรา: อวัยวะ,เลือด,นิวโรเปปไทด์และสารสื่อประสาทที่ทำให้เกิดเป็นอารมณ์หรือความคิด,กรดอะมิโนที่สร้างโปรตีน หรือดีเอ็นเอ,ฮอร์โมนที่ควบคุมร่างกาย,แร่ธาตุ,วิตามิน และกรดไขมันที่ใช้ในกระบวนการเมตาบอลิซึมของเราฯลฯ พลังงานไฟฟ้าคือพลังชีวิตของเรา

ร่างกายมนุษย์เป็นซิมโฟนีแห่งเสียง ทุกจักระ,ทุกอวัยวะ,ทุกกระดูก,ทุกเนื้อเยื่อ,ทุกเซลล์ มีความถี่พ้อง(resonant frequency)พวกมันร่วมกันสร้างความถี่ที่เป็นหนึ่งเดียวหรือคอมโพสิตโดยมีเสียงของตัวเองเหมือนกับเครื่องดนตรีของวงออร์เคสตรามารวมกัน ตามหลักการแล้ว เสียงและความถี่แต่ละรายการจะประกอบกันเป็นเสียงเดียวกันทั้งหมด (a harmonious whole) นั่นคือเมื่อร่างกายทำงานตามที่ควรทำในด้านสุขภาพ อย่างไรก็ตามเมื่ออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งทำงานผิดปกติหรือไม่สอดคล้องกับส่วนที่เหลือ ร่างกายทั้งหมดก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย ความไม่ลงรอยกันนี้นำไปสู่สภาวะของโรคและการสลายตัว

Dissonance and Rhythm

โชคไม่ดีที่การใช้ชีวิตในเมืองหมายถึงการใช้ชีวิตท่ามกลางเสียงอึกทึก ต้นกำเนิดของคำว่า “noise” มาจากภาษาละติน “nausea” เราถูกกระหน่ำด้วยเสียงที่สร้างอารมณ์เสียและกระตุ้นความเครียดเหล่านี้ – การจราจรบนท้องถนน,รถไฟใต้ดิน,เครื่องบิน, เสียงไซเรนของรถฉุกเฉิน,รถบรรทุกขยะ,สัญญาณเตือนรถ,อุปกรณ์ก่อสร้าง,โทรศัพท์มือถือ,เครื่องจักรในที่ทำงาน,เครื่องตัดหญ้า,ไดร์เป่าผม,การนั่งคุยกันในร้านอาหารและร้านกาแฟที่มีผู้คนพลุกพล่านฯลฯ มลพิษทางเสียงเป็นหนึ่งในมลพิษที่แพร่หลายมากที่สุดที่เราเจอ

เสียงที่เป็นพิษ เป็นพิษต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเราอย่างแท้จริง เมื่อเซลล์ขน(hair cells)ในหู ซึ่งเป็นอวัยวะรับความรู้สึกที่ทำให้เราได้ยินได้รับบาดเจ็บจากเสียงจะไม่สามารถงอกใหม่ได้ ผลที่ตามมาคือความเสียหายต่อการได้ยินและในบางกรณีอาจสูญเสียการได้ยินอย่างถาวร

การสูญเสียการได้ยินที่เกิดจากเสียงรบกวนอาจเกิดจากการสัมผัสกับเสียงดังเพียงครั้งเดียว เช่น เสียงระเบิดหรือการสัมผัสกับเสียงที่ระดับความดังต่างๆซ้ำๆกันเป็นระยะเวลานาน ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเสียงดัง ได้แก่ การสูญเสียการได้ยิน,ความเครียด,ความดันโลหิตสูง,แผลในกระเพาะอาหาร,การลดลงของระบบภูมิคุ้มกัน,การอดนอนและความเหนื่อยล้า,ความว้าวุ่นใจและประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่ดี,ความบกพร่องทางการเรียนรู้,ก้าวร้าวมากขึ้น,ซึมเศร้าและคุณภาพชีวิตโดยทั่วไป และโอกาสสู่ความเงียบสงบลดลง

ความถี่, โทนเสียง และเสียงต่างๆ – ผ่านการตีกลอง,การสวดมนต์,toningหรือการใช้เครื่องมือ เช่น AMI750, Healy สามารถกระตุ้นสถานะต่างๆ เพื่อส่งเสริมการรักษาร่างกาย,จิตใจ,อารมณ์ และจิตวิญญาณในระดับโมเลกุล ร่างกายของเราเป็นระบบของการสั่นของอนุภาคอะตอม เราเป็นตัวรับและตัวส่งการสั่นสะเทือนที่มีชีวิต เราสามารถใช้ความถี่เพื่อสั่นสะเทือนสสารและส่งเสริมการรักษาและการฟื้นฟูระบบต่างๆ ของร่างกาย ความถี่เหล่านี้ยังเปลี่ยน etheric patterning เพื่อรักษาสาเหตุทางอารมณ์และจิตใจของโรค