The Matrix หนังหรือเรื่องจริง
Simulation Hypothesis คือสมมติฐานบนความเชื่อที่ว่าเราอยู่ในโลกที่ถูกสร้างขึ้น (Simulation)
คุณ Riz Vork นักพัฒนาเกม นักวิทยาศาสตร์ควอนตัม จากมหาวิทยาลัย MIT ผู้เขียนหนังสือ Simulation Hypothesis กล่าวใน Talks at Google ว่า Simulation Hypothesis แบ่งออกเป็น 2 สมมติฐานด้วยกัน คือ
1. Simulation Arguement ซึ่งถูกนำเสนอโดย Nick Bostrom จากมหาวิทยาลัย Oxford ซึ่งเค้ากล่าวว่า 1 ใน 3 ข้อสันนิษฐานนี้เป็นความจริง (simulation-argument.com)
1.1 มนุษย์สูญพันธุ์ก่อนที่จะมีวิวัฒนาการไปถึงยุค Posthuman
1.2 มีความเป็นได้น้อยมากที่อารยธรรม Posthuman จะสร้าง Simulation ประวัติศาสตร์ของตัวเองขึ้นมาหลาย Simulation เป็นจำนวนมาก
1.3 อารยธรรม Posthuman สร้าง Simulation ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก และเรามีชีวิตอยู่ในหนึ่ง Simulation ที่พวกเค้าสร้างขึ้น
2. เราอยู่ใน Simulation แบบ RPG หรือ Matrix ที่มีผู้เล่นอยู่นอกเกม การยกตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Matrix ที่ Neo ได้รู้ว่าจริงๆ แล้วเค้าได้อาศัยอยู่ในโลกที่เป็นโฮโลแกรม และเค้าสามารถเลือกที่จะกินยาเม็ดสีแดงเพื่อตื่นจากการใช้ชีวิตในโลกนั้น หรือยาเม็ดสีฟ้าเพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนั้นต่อไป
หากเราลองพิจารณาว่า สมมติฐานข้อ 1.3 และข้อ 2 เป็นความจริง และเรากำลังเป็นตัวละครที่อยู่ในร่างมนุษย์ ที่ถูกกำหนดบทบาทมาด้วย Soul plan ที่เขียนขึ้นมาเองก่อนจะลงมาเล่นเกมในโลกมนุษย์ เพื่อเรียนรู้อะไรบางอย่าง แต่เมื่อลงมาที่โลกแล้วก็ลืมบทบาทของตัวเอง
Higher self ของเราก็อาจเปรียบเสมือนผู้เล่นเกมที่อยู่นอก Matrix และพยายามที่จะช่วยให้เราหาทางตื่นรู้ จำ soul plan ของตัวเองได้ และออกจาก Matrix ให้ได้
และหากลองพิจารณาต่อไปว่า ถ้าอารยธรรม Posthuman มีเทคโนโลยีที่สามารถสร้างโฮโลแกรมโลกได้ ก็ต้องสามารถสร้างระบบจักรวาล และดาวดวงอื่นๆ ได้ตามที่พวกเค้าต้องการ เพื่อให้มีเกมให้เลือกเล่นหลายเกม ช่วยลดความเบื่อของ Source ผู้ที่คิดค้นระบบเกมนี้ขึ้นมา ทำให้ยิ่งมีความเชื่อมโยงของการค้นพบ Galaxy อื่นๆ รูหนอน จักรวาลคู่ขนาน และmultiverse ที่เป็นสิ่งที่หลายๆ คนบอกว่าเป็นองค์ประกอบของการเกิด Deja Vu
เรื่องทั้งหมดนี้ ก็มีความเป็นไปได้ไม่ใช่หรือ เพราะทุกอย่างดูจะสัมพันธ์กัน
ทีนี้ถ้าเราเชื่อว่าระบบ Matrix เป็นการสร้างขึ้นมา โดยอารยธรรมที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ก็ลองมารู้จักกับการทำงานของระบบ Matrix เพื่อที่จะช่วยให้เราตื่น และออกจาก Matrix ได้กันดีไหม
แต่เดิมนั้นระบบ Matrix ถูกสร้างขึ้นด้วยการใช้กฏแรงดึงดูด เป็นระบบปฏิบัติการของโลกโฮโลแกรม ซึ่งหมายความว่า เมื่อมนุษย์ปรารถนาสิ่งใด ระบบจะสามารถอ่านความคิดของมนุษย์ และเสกสิ่งที่มนุษย์ต้องการให้เกิดขึ้นในรูปแบบของ 3 มิติ ด้วยโฮโลแกรม และทำให้มนุษย์มีความสุข แต่พวกมนุษย์ต่างดาวสายพันธุ์ Reptilian ฝ่ายอธรรม ต้องการให้มนุษย์อยู่ในความกลัว เพื่อที่จะไม่สามารถตื่นรู้ และจำบทบาทของตัวเองได้ ทำการ Hack ระบบ Matrix และป้อนข้อมูลความกลัว ความโลภ อารมณ์เชิงลบต่างๆ (ในที่นี้ขอเรียกว่า Bug) เข้าไปในโปรแกรม ดัดแปลงระบบปฏิบัติการดั้งเดิม ทำให้มนุษย์มีความกลัว ความเชื่อที่ผิดๆ และจำกัดความสามารถของมนุษย์ ทำให้มนุษย์ไม่สามารถหลุดพ้นจากการเล่นเกมนี้ และต้องกลับมาเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อที่เหล่า Reptilian จะได้ใช้งานมนุษย์ต่อไปได้
ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการตื่น และมองเห็น Bug ของพวก Reptilian ในระบบ Matrix ได้ล่ะก็ คุณต้องพัฒนาระดับพลังจิตขึ้นมาให้สูงมากพอที่จะหลุดออกจากสนามพลังงานของโลก ที่ชื่อว่า Van Ellen Belts ให้ได้ และนี่ก็สอดคล้องกับกฏแห่งการสั่นสะเทือน (Law of vibration) และกฏแห่งแรงดึงดูด (Law of vibration) ที่ว่า อารมณ์ของคุณมีผลต่อระดับความสั่นสะเทือนของคุณ และถ้าคุณมีระดับการสั่นสะเทือนในคลื่นความถี่ที่สูงขึ้น คุณก็จะสามารถดึงดูดสิ่งที่อยู่ในความถี่สูง สิ่งดีๆ เข้ามาหาคุณในชีวิตจริง ในแบบ 3D ได้
บทสรุปของ Matrix
1. ก่อนลงมา Earth school เรารู้อยู่แล้วว่ามันคือ Simulation world
2. เขียนบท และส่ง Soul ลงมาเกิดในร่างมนุษย์เพื่อเล่นเกมตามบทที่เขียนไว้ โดยมี Higer self เป็นผู้คอยบงการตัวละครในเกม
3. แต่เงื่อนไขของ Earth School คือต้องลืมบท
4. ความท้าทายคือ จำบทตัวเองให้ได้ เชื่อมต่อกับ Higher self และเล่นตามบท
5. ยกระดับ Consciousness ขึ้นไป 5D เพื่อออกจากระบบ Matrix 3D ที่ถูก Hack โดยพวก Reptilian ทำให้จำบทตัวเองได้ และใช้ Original Matrix System (Law of Attraction) ได้
6. เมื่อเล่นตามบทที่เขียนมาจนถึงจุดจบ ก็กลับบ้านได้
7. อุปสรรคคือ ความเชื่อที่ทำให้เกิดความกลัว ที่ถูกโปรแกรมเข้าไปในระบบโดยพวก Reptilian
8. บางคนคิดว่าตัวเองไม่มีความกลัวแล้ว แต่ตกเป็นทาสของระบบเงินตรา ที่ถูกโปรแกรมขึ้นมาให้มีคุณค่ามากกว่าการเล่นตามบทบาทของตัวเอง
หากคุณลองเปิดใจ และคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นนิยายที่น่าลองเชื่อดู เราขอแนะนำให้คุณทำสิ่งต่อไปนี้เพื่อที่จะสามารถยกระดับพลังงานการสั่นสะเทือนของคุณให้ขึ้นมาสูงพอที่จะตื่นจากระบบ Matrix และเสกชีวิตได้ตามที่คุณต้องการ
ฝึกทำสมาธิเพื่อให้สมองส่วน Neocortex มีการพัฒนา เพิ่มสติ ปัญญา และปัญญาญาณ ช่วยให้เราสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ หรือสามารถชนะการทำงานของสมองส่วน Limbic ที่เป็นศูนย์กลางการก่อเกิดอารมณ์ และ Reptilian brain ที่กระตุ้นให้เราใช้สัญชาตญาณความอยู่รอด (Survival mode) การฝึกสมาธิด้วยวิปัสสนากรรมฐาน และสติปัฏฐาน 4 เป็นเครื่องมือที่พระพุทธเจ้าท่านได้สร้างไว้ให้แล้ว
ฝึกหายใจที่ช่วยให้เกิดการทำงานที่สอดคล้องกันของสมอง และหัวใจ (Coherence breathwork) เพื่อกระตุ้นการทำงานของสหัสราจักระ (Crown chakra)
ฝึกหายใจที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทวากัส ที่เชื่อมต่อระบบประสาทสมอง หัวใจ และลำไส้ ด้วย Victorious breath
ฝึกหายใจที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไพเนียล (DMT breathwork) เพื่อกระตุ้นการทำงานของตาที่สาม (Third eye chakra)
ทำตามวิธีที่จะช่วยการสลายหินปูนที่เกาะต่อมไพเนียล (Pineal gland decalcification) เช่น ลดการใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ งดอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย Junk food ของมัน ของทอด น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ และอื่นๆ ทานอาหาร และอาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ลดการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีโลหะหนัก (ดู Awakening Podcast Ep.20)
6. ทำทุกอย่างด้วยความเพียร และมีวินัยในการทำ หากคุณท้อ เราขอให้นึกถึงเหตุผลที่ทำไมคุณถึง หน้าตา และความรู้สึกของชีวิตที่คุณเสกได้ และการเป็นผู้ชนะในเกมชีวิตของคุณเอง
Alchemist Nook
