Skip to content Skip to footer

Channeling เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงของมนุษย์กับ a higher vibration of thought มาโดยตลอด ดังนั้น จึงไม่ใช่กระบวนการใหม่ใดๆ แต่สิ่งที่ใหม่คือการรับรู้ในปัจจุบัน และการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสิ่งนี้ ในทศวรรษที่ผ่านมา

Channeling (หรือ Channeling) คือกระบวนการสื่อสารกับ consciousness ใดๆ ที่ไม่ได้อยู่ในรูปของมนุษย์ โดยปล่อยให้ consciousness นั้นแสดงออกมาผ่านตัวบุคคลหรือ Channeler รูปแบบการสื่อสารทั่วไปกับ non-physical consciousness คือการสื่อสารกับคนที่ล่วงลับไปแล้ว แต่นั่นมักเรียกว่า “mediumship” มากกว่าที่จะเป็น channeling

Channeling โดยปกติหมายถึง การเข้าถึง higher knowledge เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางจิตวิญญาณ และเพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับชีวิตของเรา Channeling เป็นวิธีการที่ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลจากเอนทิตีที่คาดว่าจะมีการพัฒนามากกว่าเรา และสามารถให้ความกระจ่างแก่เราในขณะที่เราเคลื่อนผ่านวิวัฒนาการของ consciousness และกลับสู่ source .

ทุกอย่างสั่นสะเทือน เมื่อคน channels พวกเขากำลังแตะ หรือเสียบเข้ากับความถี่ของโปรแกรมกริดที่เรามีประสบการณ์ มันเหมือนกับการจูนคลื่นวิทยุ แต่ละสถานีหรือ energy plug-in จะนำความถี่เฉพาะของข้อมูลมา ซึ่งบางครั้งเราเชื่อมโยงกับสี, จักระ, โทน และสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการโดยเฉพาะ เช่น angels, archangels, ascended masters and teachers, รวมทั้ง ET’s จากมิติที่สูงกว่า

หนังสือศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาหลักๆ ทั้งหมดกล่าวกันว่า สืบทอดมาจากพระเจ้า, พระเมสสิยาห์, ผู้เผยพระวจนะ, เทวดา, อีที อย่างไรก็ตาม ศาสนาต่างๆ มักสอนว่า ข้อความเหล่านี้สามารถส่งต่อไปยังชายและหญิงที่ “ได้รับการอนุมัติ” เป็นพิเศษเท่านั้น

Channelers ยุคใหม่บอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไปว่า ใครๆก็มีความสามารถที่จะ channel และรับข้อมูลจากแหล่งที่สูงกว่าได้ และนี่อาจเป็นเหตุผลของข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีอยู่ในขณะนี้ที่ได้รับการ channel มา ด้วยการสนับสนุนโดย the entity ที่พวกเขา channel, channeler มี มุมมองที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับพลังงานปัจจุบันที่มีอยู่บนโลก และผลกระทบต่อมนุษยชาติ พวกเขาสามารถให้คำแนะนำผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบากเหล่านี้

การมี channeled information ที่มาจากแหล่งต่างๆ มากมาย ทำให้เราต้องใช้วิจารณญาณตลอดเวลา ข้อความอาจมาจาก Spirit แต่มันส่งผ่าน channeler ที่เป็นมนุษย์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกรองที่มีศักยภาพในการเพิ่มข้อมูลหรืออัตตาของตนเองลงในข้อความ Channeler ส่วนใหญ่แยกตัวออกจากตัวเองเมื่อมีการ Channeling เกิดขึ้น ดังนั้น พวกเขาจึงอยู่นอกกระบวนการ Channeling

ดังนั้น อัตตาของพวกเขาจึงไม่เข้าไปปะปน Channeler เป็นผู้สังเกตการณ์ที่เป็นกลางของกระบวนการของเอนทิตีที่ส่งข้อความมา Channeler จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการข้อความของข้อมูลที่เอนทิตีให้ไว้ระหว่างเซสชัน สิ่งนี้ให้โอกาสในการให้แหล่ง channeled information ที่ถูกต้องซึ่งมีความชัดเจน โดยไม่มีข้อความปะปนจากอีโก้ของ Channeler

พวกเขามักจะจำทุกสิ่งที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างชัดเจน Channeler เชื่อมต่อกับความถี่การสั่นสะเทือนของเอนทิตีหรืออีทีที่พวกเขา channel และข้อมูลก็ถูกส่งมาผ่านการ Channeling

ประเภทของ Channeling:
มี channelers ประเภทใดบ้าง มีหลายวิธีในการ channeling โดยพื้นฐานแล้ว channeling ในรูปแบบใดก็ตาม ถือเป็น altered state ซึ่งตกอยู่บนสเปกตรัม มากกว่าที่จะแยกออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆที่ชัดเจน ต่อไปนี้คือจุดที่แตกต่างกัน 4 จุดบนสเปกตรัมนั้น:

channel แบบมีสติเต็มที่
Altered-state “conscious” channel, ซึ่งความรู้สึกขณะ channeling คือคุณมีสติสัมปชัญญะอย่างเต็มที่ แต่หลังจากนั้นคุณตระหนักว่าคุณอยู่ในจุดโฟกัสที่แตกต่าง (เล็กน้อยหรือมาก) จากความเป็นจริงในยามตื่นปกติ — ซึ่งเป็นสภาวะแห่งการรับรู้ที่เหนือสำนึกอย่างหนึ่ง (superconscious state of awareness)
Light Trance Channel (นั่นคือ แชนเนลขณะอยู่ใน Light trance)
Full trance channel.

มีสติอย่างเต็มที่:
กล่าวโดยสรุป channeler ที่มีสติสัมปชัญญะอย่างเต็มที่ จะอยู่ในสภาวะตื่นตัวและตระหนักรู้ “ปกติ” สามารถเคลื่อนไหว, ขัดขวางตนเอง, หยุด, เริ่ม และอื่นๆ โดยไม่รบกวนกระแสของ the channeling อย่างมีนัยสำคัญหรือเห็นได้ชัดเจน

Altered state “conscious” channel:
Altered state “conscious” channel ค่อนข้างแตกต่างไปจากจุดโฟกัสขณะตื่นปกติ ขณะ channeling, the channel คิดว่าพวกเขามีสติเต็มที่ แต่หลังจากนั้น พวกเขาตระหนักว่า พวกเขาจำ channeling ไม่ได้ด้วยความชัดเจนแบบเดียวกับที่พวกเขาอยู่ใน the waking conscious experiences และแนวคิดในภายหลังจะไม่ชัดเจนเสมอไปเหมือนกับตอนที่ the channeling เกิดขึ้น The channelingประเภทนี้เรียกว่า the “superconscious” state.

Trance channels, light to full:
Trance channels คือการที่เข้าสู่ Trance ตั้งแต่ light to heavy เพื่อที่จะ channel ในภาวะ trance, the channeler ออกไปที่ไหนสักแห่ง (ไกลหรือใกล้) ในขณะที่เอนทิตีสื่อสารข้อความด้วยกระแสจิต หรือเข้าไปในร่างกายของ the channeler (หรืออย่างน้อยก็เข้าควบคุมการทำงานของร่างกายนั้น) เพื่อถ่ายทอดข้อความ Channelers บางคนเรียกสิ่งนี้ว่า “full body” channeling. A trance channelอาจจำ the channeling ได้ หรืออาจจำไม่ได้เลย

ประเภทของเอนทิตีที่สามารถแชนเนลได้:

– มนุษย์ธรรมดา รวมทั้งตัวคุณเองด้วย
– ผู้อาศัยอยู่ในโลกแห่งธาตุ
– Aliens/ET
– บรรดา Ascended and enlightened masters และเทวดาทั้งหลาย
– The god and goddess แห่งบริเวณนี้
– The god/goddess ผู้สร้าง god and goddess ของเรา
– ผู้ปกครองจักรวาล
– อาจมีมากกว่านั้น

กระบวนการแชนเนล:
“rules” หรือ “laws” พื้นฐานอย่างหนึ่ง ในความพยายามใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ spirits ก็คือว่า ไม่สามารถเอาชนะเจตจำนงเสรีของ entity อื่นได้! หากเอนทิตีหนึ่งพยายามที่จะแทนที่อีกเอนทิตี ผลที่ร้ายแรงจะเกิดขึ้นตามมา อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่เอนทิตีหนึ่งจะอนุญาตให้อีกเอนทิตีหนึ่งแทนที่เจตจำนงของตน และให้อนุญาตใน the spirit level โดยที่พวกเขาอาจไม่ได้ตระหนักถึงข้อตกลงในระดับ conscious

แม้ว่าสิ่งนี้จะดูเหมือนเป็นการเอาชนะเจตจำนงของตน แต่หากบุคคลที่ถูกแทนที่ได้ยินยอมแล้ว มันก็ไม่ได้เป็นการผิดกฎ นี่ถือเป็นช่องโหว่ชนิดหนึ่ง กฎนี้ใช้ใน channeling เช่นกัน เอนทิตีจะไม่สามารถ channeled ได้ เว้นแต่ the channeler จะตกลงที่จะให้ข้อความผ่าน หากคุณเป็นa channeler อยู่แล้ว หรือสนใจที่จะเป็น และคุณไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน

โปรดจำไว้ ทุก entity ที่พยายามส่งข้อความผ่าน a channeler รู้กฎนี้ดี หากคุณไม่ชอบสิ่งที่เกิดขึ้น — นั่นคือ ถ้าคุณไม่ชอบความรู้สึกของพลังงานของ entity นั้น หรือถ้าคุณไม่ชอบลักษณะของข้อความ หรือถ้าคุณไม่ชอบสายตาของ entity นั้น คุณสามารถขอให้ entity นั้นออกไป และเธอ/เขาจะต้องทำตาม

นี่เป็นการแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการแชนเนล เนื่องจากกระบวนการแชนเนลเริ่มต้นด้วยคำเชิญ: คุณ, the channeler, เชิญเอนทิตีที่คุณต้องการจะแชนเนล คุณไม่ได้ถูกบังคับ แต่เป็นการที่ an entity ติดต่อคุณและขอให้ channeled, หรือไม่ คุณก็เชิญ an entity ไม่ว่าจะโดยเจาะจงหรือโดยทั่วไป (เช่น คุณอาจขอให้พระเยซูตรัสผ่านคุณ หรือคุณอาจขอ the “highest beings of light possible,” หมายถึงสิ่งมีชีวิตสูงสุดที่คุณสามารถเป็นร่างผ่านได้)

ไม่ว่าในกรณีใด คุณจะต้องมีสิทธิ์ตัดสินใจอย่างเต็มที่ว่าใครก็ตามที่ปรากฏตัวจะได้รับอนุญาตให้อยู่และพูดต่อไปหรือไม่ เมื่อทำการเชิญแล้ว กระบวนการเชื่อมต่อก็จะเกิดขึ้น หาก the channeler เป็น a trance channel, เธอ/เขาจะเข้าสู่ภาวะ trance จากนั้นเอนทิตีจะเข้าควบคุมความสามารถบางอย่างของ the channeler และอนุญาตให้เอนทิตีพูดได้ ถ้า the channeler is a more conscious channel, ก็จะเป็นการที่เอนทิตีก้าวเข้าสู่สนามพลังงานของ the channeler, และ the channeler ตระหนักการมีอยู่ของเขาหรือเธอ

ในบางกรณี ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว แทนที่จะรวมเข้าด้วยกันในแง่นั้น Channeler จะทำการเชื่อมต่อทางกระแสจิตกับ the spirit. ณ จุดนี้ การเชื่อมโยงการสื่อสารบางอย่างได้ถูกสร้างขึ้น และข้อความก็เริ่มส่งผ่านเข้ามา หาก channeler รู้สึก ณ จุดนี้ หรือ ณ จุดใด ๆ ในระหว่างเซสชันว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการเชื่อมต่อนี้ — หรือ the entities “รู้สึก” ว่ามีอะไรไม่ถูกต้อง หรือการเชื่อมต่อไม่ชัดเจน — Channeler อาจดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

1. ขอความช่วยเหลือในใจ ในการชี้แจงข้อความจาก entities ที่จะช่วยได้ ที่เขาหรือเธอ “รู้จัก”
2. visualize การเชื่อมต่อที่ดีขึ้น
3. ขอให้ผู้บุกรุก (ถ้ามี) ออกไป

The Channeler’s awareness:
ในระหว่างกระบวนการแชนเนล ผู้แชนเนลจะตระหนักรู้ถึงสภาพแวดล้อมของตนเองไม่มากก็น้อย หรือออกไปที่ไหนสักแห่ง ในขณะที่มีการแปลเกิดขึ้น ในแง่หนึ่ง คุณอาจนึกถึงสถานที่นั้นเป็น บูธการแปล ซึ่งเอนทิตีและ the channeler กำลังประชุมกันเพื่อทำการแปล และในขณะเดียวกัน การแปลข้อความของเอนทิตีก็กำลังออกอากาศผ่านระบบลำโพงที่อยู่ในห้องนั้น The trance channel อาจจำไม่ได้ในภายหลังว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนั้น

ในขณะที่ the conscious channeler มักจะจำได้ และนั่นเองที่คุณพิจารณาถึงจุดแข็งประการหนึ่งของ conscious channeling: คุณสามารถตรวจสอบเนื้อหาที่แจ้งในภายหลังได้ (สมมติว่ามันถูกบันทึกไว้) และวิเคราะห์เทียบกับการรับรู้ของตัวเองว่าเมื่อใดที่คุณรู้สึกว่าคุณกำลังแปลได้ชัดเจน และเมื่อใดที่คุณคิดว่าคุณสูญเสียสมาธิและบางทีอาจจะขุ่นเคืองเล็กน้อย โดยปกติแล้ว Trance channel จะไม่มีทรัพยากรนี้ ดังนั้น จึงมีแนวโน้มที่จะคิดว่าเนื้อหาทั้งหมดมีคุณภาพสูงพอๆ กัน ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับ Channeler คนไหนเลย

หากมีคนอื่นอยู่ Channeling ก็จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ตาม channeled informationที่บางคนได้รับ ผู้ที่ปรากฏตัวอยู่ที่นั่น มีผลกระทบต่อ the channeling และเกือบจะมีส่วนในการสร้างข้อความเช่นเดียวกับ the channeler. แนวคิดก็คือ แม้ว่าผู้ที่ปรากฏตัวในฐานะผู้ฟังที่ดูเหมือนเพียงแค่จะฟังอยู่ แต่แท้จริงแล้วพวกเขามีส่วนร่วมในการสร้างข้อความใน the spirit level ลองนึกถึงเรื่องนั้นในครั้งถัดไปที่คุณฟัง a channeler ด้วยตนเอง และรู้สึกสงสัยว่าพวกเขารับข้อมูลนั้นได้อย่างไร

แหล่งที่มาของข้อมูล: http://spiritlibrary.com/about/about-channeling, http://www.thelighthouseonline.com/channel/whatchan.html