การบำบัดความเครียดด้วยเสียง
ความเครียดทำให้เกิดโรคได้ถึง80% การบำบัดด้วยเสียง และการสั่นสะเทือนช่วยได้!
เราอยู่ในช่วงเวลาที่เครียดและโลกที่ตึงเครียด แต่ไม่ใช่ว่าความเครียดทั้งหมดเป็นความเครียดที่ไม่ดี ความเครียดเป็นอีกวิธีหนึ่งในการบอกเราบางอย่าง มันเป็นวิธีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างในชีวิตของเรา หากเราอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด เราต้องมาวิเคราะห์ดู เราอาจไม่ต้องกินยาเพื่อหลอกจิตใจของเราเพื่อไม่ให้รู้สึกเครียด ลองรู้สึกถึงความรู้สึกของคุณ เรียนรู้ที่จะปล่อยให้พวกมันตีความตัวเองให้เป็นข้อมูลและคำแนะนำสำหรับคุณ คุณต้องปรับอะไรบ้าง? คุณต้องจูนชีวิตของคุณเข้าหาอะไร? ซึ่งจะทำให้เราได้ตระหนักถึงชีวิตที่สอดคล้องกับตัวเราเอง
ความเครียดที่เรารู้สึกในระดับโลกคือความเครียดของระบบเก่าที่กำลังพังทลายลง นี่ไม่ใช่เรื่องแย่,ง่ายหรือสนุก คงไม่มีแม่คนไหนจะบอกคุณว่าการมีลูกเป็นเรื่องสนุกในช่วงเวลาที่จะคลอด เมื่อทารกพร้อมที่จะเกิดร่างกายจะรู้สึกเครียด ความเครียดบ่งบอกว่าความเจ็บปวดในการคลอดบุตรกำลังเริ่มต้นขึ้น แต่เมื่อความเจ็บปวดในการคลอดบุตรสิ้นสุดลง มันก็เหมือนกับในพระคัมภีร์ไบเบิลกล่าว : “ความสุขมาในเวลาเช้า ”
ดังนั้น เราจึงรู้สึกถึงความเครียดที่ระบบเก่ากำลังล่มสลาย หมายถึงระบบการเงิน, ระบบการแพทย์และระบบการศึกษาของเรา ระบบการศึกษาของเราอยู่ในสภาพย่ำแย่เป็นพิเศษ เป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่เรากำลังทำอะไรกับเด็กๆที่ถูกเรียกว่า “เด็กพิเศษ” ในวันนี้ พวกเขาอาจมีความพิเศษจริงๆในแง่ที่ว่าอาจมี DNA ที่แตกต่างจากเรา พวกเขาอาจเป็นเด็กที่มาจากขอบเขต(realm) และความถี่ที่แตกต่างจากเรา ซึ่งไม่เข้าใจระบบการศึกษาเชิงเส้นมิติที่3นี้ เด็กเหล่านั้นคือคนที่สามารถช่วยให้ระบบการศึกษาได้ปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการสอนที่แตกต่างออกไป
เราก็มีสิ่งนั้นเกิดขึ้นในศาสนาด้วย บางศาสนากำลังเติบโตแต่เป็นในแง่จิตวิญญาณของมันที่กำลังเติบโตจริงๆผู้คนเริ่มหันเหออกจากศาสนาที่เป็นระบบมากขึ้น แต่พวกเขาต้องการยึดมั่นในแง่จิตวิญญาณของศาสนา พวกเขาต้องการที่จะเชื่อในสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตนเอง ดังนั้นนั่นคือการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นทุกวันนี้ แน่นอนว่าเราสามารถสัมผัสได้ถึงความเครียดแต่นั่นคือความเครียดที่ดี นั่นคือความเครียดของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในโลกของเรา แต่มันก็เกิดขึ้นในระดับบุคคลด้วย
ดังนั้นเมื่อพูดว่าระดับโลก ก็หมายถึงระดับปัจเจกบุคคลด้วย คุณก็รู้สึกแบบนั้น คุณรู้สึกถึงมันในบ้านของคุณ คุณรู้สึกถึงมันในงานของคุณ คุณรู้สึกถึงมันในความสัมพันธ์ และคุณรู้สึกถึงมันในร่างกายของคุณ เพราะร่างกายของคุณกำลังพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เข้ากับความถี่ของพลังงานใหม่ที่เข้ามา มีคำโบราณว่าคุณไม่สามารถใส่ไวน์ใหม่ลงในกระสอบไวน์เก่าได้ พลังงานใหม่นี้จึงต้องมีภาชนะอื่น ร่างกายของเราก็คือพลังงานมันเป็นระบบพลังงานที่ถูกกักขัง,เป็นระบบพลังงานที่ต่ำมากและช้ามากในมิติที่3ของเวลาและพื้นที่ แต่มันก็เป็นพลังงาน
ดังนั้นเราจึงรู้สึกเครียด เรารู้สึกเครียดเพราะนิสัยการนอนของพวกเราหลายๆคนกำลังเปลี่ยนไป เราไม่ได้นอนเหมือนเมื่อก่อน เราไม่ได้นอนหลายชั่วโมงเหมือนเมื่อก่อน นิสัยการกินของเรากำลังพยายามเปลี่ยนแปลง หมายความว่า อะไรก็ตามที่ทำให้รู้สึกไม่สบาย ที่เรากินมาตลอดชีวิตกำลังพยายามปรับตัวและบอกเราว่าสิ่งต่างๆกำลังเปลี่ยนแปลงและบางทีเราอาจจำเป็นต้องกินแตกต่างออกไป ถึงแม้ว่ารูปแบบเก่าๆจะทำลายยาก แต่เราต้องพิจารณาสิ่งต่างๆ เหล่านี้ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ทำให้เกิดความเครียดในชีวิตของเรา
มีงานวิจัยบางอย่างจากแพทย์ที่ศึกษาเรื่องความเครียดในนิวยอร์ก ซึ่งระบุว่า การรบกวนสมองให้ออกจากความเครียดเพียง15นาที สามารถทำให้เกิดผลในการรักษาโรคได้ เพียง15นาทีของสมองในสภาวะผ่อนคลาย เราสามารถสร้างสภาวะผ่อนคลายนี้ได้ด้วยการทำสมาธิแต่ผู้คนจำนวนมากทำสมาธิได้ไม่ดีนัก เพราะพวกเขาไม่สามารถสงบจิตใจได้
ด้วยเซสชั่นส้อมเสียงเราสามารถสร้างสภาวะที่ผ่อนคลายได้ เพราะเมื่อคุณนอนอยู่บนโต๊ะและฟังส้อมเสียง ถึงแม้มันไม่มีความหมายอะไรต่อสมองในแง่ของความคิดหรืออารมณ์จิตใจ แต่สมองจะผ่อนคลายและมีบางอย่างเกิดขึ้น บางสิ่งบางอย่างที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งเหนือธรรมชาติแต่เป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติเกิดขึ้น ร่างกายเปลี่ยนตัวเอง อารมณ์ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นแล้วสิ่งที่พร้อมจะเกิดก็ย่อมเกิดขึ้นได้ในพื้นที่แห่งความเงียบนั้น –ความเกียจคร้านในการวิเคราะห์จิต(inactivity of mental analyzation)- มีคำพูดของไอน์สไตน์ที่ว่า “จินตนาการตอนนี้ วิเคราะห์ทีหลัง” แต่เราวิเคราะห์ทุกอย่างมากเกินไปและในการทำเช่นนั้นเราไปกระตุ้นสมองและกลไกการป้องกันของมันทำให้ยากที่จะเข้าถึงส่วนที่มีมาแต่กำเนิดของเราที่มีสติปัญญาที่รู้วิธีที่จะทำให้เกิดและmanifest ความปรารถนาของหัวใจของเรา